ก่อน จะไปเรื่องอื่นๆต่อ สิ่งแรกที่เราควรชัดเจนคือ จะทำขายใคร หากแค่ทำเสื้อสกรีนเพื่อใช้ในงานสังสรรค์ งานเลี้ยงรุ่น งานรวมญาติ เราอาจไม่ต้องกังวลมากเรื่อง เนื้อผ้าหรือความปราณีตของการตัดเย็บที่ต้องเนี้ยบสุดๆ อะไรขนาดนั้นก็ได้ ซึ่งต่างกันแน่นอนหากเราต้องการทำเสื้อยืดสกรีนขายในตลาดเสื้อคุณภาพสูง งานระดับ High-end ที่ต้องใส่ใจ ละเอียดละออ และให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดของงาน
เรื่องที่ต้องคำนึงถึงต่อไป คือ ไซส์เสื้อ ที่เราจะทำจะให้ครอบคลุมแค่ไหน เพราะเป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่ค่อนข้างสำคัญ (ลองคิดภาพดูว่า เราต้องการเสื้อตัวนี้แต่ไม่มีไซส์ที่ต้องการดู จะเฟลแค่ไหน)
ปัจจัยด้านเพศก็มีส่วนสำคัญ ควรคำนึงว่า เสื้อยืดที่เราทำออกมานั่น ใส่ได้ทุกเพศ หรือ เหมาะกับผู้ชายใส่แล้วเท่ห์ที่สุด หรือ เหมาะกับรูปร่างคุณสาวๆ ใส่แล้วดูเข้ารูป เซ็กซี่ๆ และที่สำคัญที่สุด ราคาเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการขายหรือไม่ ลองประเมินราคาดูว่าราคาขายนี้สูงไป หรือ คุ้มค่าในการซื้อมาใส่
เพราะเนื้อผ้าของเสื้อยืดแต่ละชนิดนั้น ผลิตขึ้นมาจากวัสดุที่หลากหลาย และแต่ละชนิดก็เหมาะกับงานพิมพ์หรืองานผลิตเสื้อยืดที่แตกต่างเช่นกัน การเลือกระบบการพิมพ์เสื้อให้ชัดเจนจะช่วยให้เราสามารถมองหาเสื้อยืดที่เหมาะกับงานได้ง่ายขึ้นนั่นเอง ด้านล่างนี้คือ ระบบการพิมพ์และผลิตเสื้อที่นิยมกันมากที่สุด
งานพิมพ์สีระเหิด ที่ส่วนใหญ่จะเรียกทับศัพท์กันไปเลยว่า งานsub นั้น เหมาะกับงานที่ต้องการให้ออกมาสีสันสดใส หรือ ต้องการพิมพ์ให้ครอบคลุมผ้าทั้งชิ้น ควรเลือกเสื้อยืดเปล่าที่ผลิตจาก ผ้า polyester 100% เพราะถูกออกแบบมาให้เหมาะกับงานประเภทนี้
ซิลค์สกรีน ระบบงานพิมพ์ที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย และสามารถพิมพ์ลงบนเสื้อยืดเปล่าที่ผลิตจากเส้นใยหลากหลาย มีความยืดหยุ่นกว่างานพิมพ์ประเภทอื่นๆ ทำให้เป็นที่นิยมนั่นเอง
เป็นระบบการพิมพ์ที่เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดสูงเช่น ภาพถ่าย หากต้องการพิมพ์ลงบนผ้าที่สีเข้ม ต้องใช้เสื้อยืดที่ผลิตจากผ้าฝ้าย Cotton 100% และต้องอาศัยการรองพื้นด้วยสีขาวก่อนพิมพ์สีอื่นๆลงไป หากต้องการพิมพ์ลงบนผ้าสีสว่างๆ หรือสีขาว สามารถเลือกใช้เสื้อยืดที่ผลิตจากผ้าชนิดใดก็ได้ ซึ่งส่วนใหญ่งานประเภทนี้มักนิยมพิมพ์ลงบนผ้าขาวเพื่องานที่ออกมาดีที่สุด
งานปัก เป็นงานที่เหมาะกับเสื้อโปโล Polo หากเป็นเสื้อยืดควรเลือกที่เป็นผ้าฝ้ายเนื้อค่อนข้างหนา เพื่อให้สามารถรองรับการปักได้
หากคุณคือคนทำเสื้อยืดสกรีนขายแล้วล่ะก็ ความนุ่มของเนื้อผ้าคือสิ่งที่ชนะใจคนซื้อที่สุด ดีไซน์เยี่ยมๆอาจช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาหาก็จริง แต่สิ่งที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจควักเงินออกจากกระเป๋ามาซื้อเสื้อตัวนั้นได้แน่นอนที่สุด คือการได้สัมผัสกับเนื้อผ้า ว่านุ่ม ใส่สบายแค่ไหน
กระบวนการผลิตเสื้อที่มีเนื้อผ้านุ่มๆ นั้นเกิดจากการทอผ้าขึ้นมา และในบรรดาการทอจากเส้นด้ายนั้น ด้ายที่ปั่นแบบริงหรือแบบวงแหวน (Ring Spun) ถือว่าเป็นการปั่นที่ทำให้มีเส้นใยที่บางและนุ่ม เพราะเป็นกระบวนการผลิตที่สางเอาของเสียออกจากเส้นใย ซึ่งยิ่งละเอียดมาก ก็จะได้เส้นใยที่มีความนุ่ม เนียน เส้นใยที่ดีที่สุดคือ เส้นด้าย Combed Cotton ที่เหมาะกับการทำเสื้อยืดระดับ High-end ซึ่งราคาต้นทุนก็จะสูงตามไปด้วย
อีกตัวเลือกหนึ่งในตัวเลือกของผ้าเนื้อนุ่ม คือ TriBlend ซึ่งก็คือผ้ายืดที่ในเนื้อผ้ามีการผสมผสานของเส้นใยสามตัว คือ ฝ้าย เรย่อน และ โพลีเอสเตอร์ ( Cotton , Rayon and Polyester )
สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือ ความนุ่มของเนื้อผ้านั้นสัมพันธ์กับราคา ยิ่งมีความนุ่ม สบาย ราคาก็จะยิ่งสูง ควรคำนวนต้นทุนให้ชัดเจนและเลือกเนื้อผ้าให้อยู่ในระดับที่พอดีกับงบประมาณจะดีที่สุด
อย่างเช่น กลุ่มเป้าหมายในตลาดที่เราต้องการขายคือ เสื้อผ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก็จำเป็นที่ต้องใช้เสื้อยืดที่ผลิตจาก ฝ้ายออแกนิก เป็นต้น
หรือจะดึงเอาจุดเด่นของวัสดุในการผลิตมาเป็นจุดขาย อย่างเช่นผลิตจากผ้าใยไผ่ เพื่อสุขภาพ เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ
หรือ หากต้องการเน้นเรื่องแหล่งผลิตเสื้อที่นำเข้ามาจากต่างประเทศเพื่อเน้นเรื่องคุณภาพสินค้า ก็อาจต้องสั่งเสื้อยืดที่ Made in ประเทศนั้นๆ ที่ได้ชื่อว่ามีคุณภาพรับรองได้ หรือจะเน้นเรื่องสนับสนุนสินค้าภายในประเทศที่คุณภาพไม่แพ้ต่างประเทศ
ซึ่งตัวเลือกทั้งหลายเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนเสริมที่อาจมีผลต่อการทำการตลาดให้สามารถขายสินค้าได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
ถ้าเราแค่มองหาเสื้อยืดเพื่อทำให้ทีมใส่ ให้สตาฟในงาน หรือแค่ชาวแก๊งค์แค่ไม่กี่คน ทรงเสื้อที่พอดีตัว ใส่แล้วไม่ดูน่าเกลียดมาก ราคากลางๆ ก็น่าจะเหมาะกับงาน ต้นทุนการสั่งซื้อก็ไม่สูงจนเกินไปด้วย
แต่หากว่าเราคือ คนทำธุรกิจขายเสื้อยืด และต้องการสร้างแบรนด์สินค้า เรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญ อย่าลืมว่าคนแต่ละคนนั้นรูปร่างต่างกัน ทรงเสื้อยืดที่เลือกนั้นมีหลากหลายแพทเทิร์น หลากหลายแบบ การใส่ใจกับเรื่องนี้ย่อมทำให้ลูกค้าประทับใจในสินค้าของคุณ เลือกแบบที่คุณมองเห็นว่าหากลูกค้าใส่แล้วจะพึงพอใจที่สุด ควรมีขนาดที่ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าด้วย และควรคำนึงถึงรายละเอียดอื่นๆ เช่น ความต่างของทรงเสื้อผู้ชาย และผู้หญิง เข้าใจกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเราให้มากที่สุด การให้ความสำคัญกับลูกค้าในเรื่องนี้จะได้ผลบวกต่อแบรนด์ของเรามากกว่าผลเสีย
หวังว่าทั้ง 5 ข้อนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคน ในการมองหาเสื้อยืดเปล่ามาใช้ในงานต่างๆในครั้งต่อไป
ที่มา: www.t-shirtmagazineonline.com