การเลือกขนาดของกรอบสกรีนให้เหมาะสมกับ แม่แบบเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะมีผลทำให้งานพิมพ์มีความสวยงาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญหลายประการด้วยกัน ตามปกติจะต้องเลือกกรอบสกรีน ให้มีขนาดใหญ่กว่าแม่แบบ เพื่อที่จะทำให้ภาพที่พิมพ์ออกมานั้นมีความคมชัด และถ้าเป็นการพิมพ์สอดสีก็จะสามารถทำได้อย่างเที่ยงตรง ทั้งนี้เพราะใช้เฉพาะเนื้อที่ส่วนกลางเท่านั้น ซึ่งจัดเป็นส่วนที่ตึงโดยสม่ำเสมอมากกว่าบริเวณที่ติดกรอบสกรีนซึ่งจะเป็น ส่วนที่ตึงมากที่สุด
ดังนั้นบริเวณส่วนกลางนี้ แรงยางปาดจึงสามารถลงได้อย่างสม่ำเสมอมากกว่าส่วนริม ซึ่งในทางปฏิบัติจะทำให้สิ้นเปลืองเนื้อผ้าและกรอบสกรีนมากและสิ่งเหล่านี้ จะเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิต แต่สำหรับงานที่ต้องคำนึงถึงคุณภาพก็ควรที่จะต้องลงทุนบ้าง อย่างเช่น ในการซิล์คกรีนลงบนพื้นผิวเรียบ จะต้องดูความเหมาะสมด้วย คือ โดยปกติมักจะเลือกกรอบสกรีนให้กว้างกว่าแม่แบบในด้านข้างประมาณด้านละ 2-3 นิ้ว สำหรับพื้นที่ด้านบนและด้านล่างซึ่งเป็นบริเวณที่จะปาดสีและพักสีสกรีน ห่างจากแม่แบบที่วางแนวไว้แล้วประมาณ 4-5 นิ้ว แต่ทั้งนี้จะกำหนดระยะห่างดังกล่าวเป็นหลักเกณฑ์ที่แน่นอนไม่ได้ อย่างเช่น การพิมพ์บนภาชนะบรรจุภัณฑ์ที่เป็นพลาสติกชนิดต่างๆ ของชำร่วย ซึ่งวัสดุเหล่านี้ จะมีรูปทรงต่างๆ มีขอบและเนื้อที่ในการพิมพ์จำกัด อาจจะเป็นรูปโค้งบ้างเล็กน้อย
ดังนั้นการทำกรอบสกรีนจึงต้องคำนึงถึง ทิศทางการพิมพ์ และดัดแปลงกรอบสกรีนให้มีความเหมาะสมกับรูปทรงของสิ่งพิมพ์ ซึ่งในบางครั้งก็จำเป็นจะต้องนำวัสดุอย่างอื่นเช่น เหล็ก, อลูมิเนียม หรือไม้นำมาไสแล้วดัดโค้งประกอบให้เข้ากับรูปทรงของวัสดุเหล่านั้น ดังนั้นเนื้อที่ของการพิมพ์ก็จะถูกกำจัดไปโดยปริยาย คือพิมพ์เฉพาะจุดที่จะพิมพ์ และไม่สามารถที่จะเหลือบริเวณของการพักสีสกรีนมาก จนสามารถพิมพ์ได้สะดวก และเป็นไปตามความต้องการได้ เราอาจจะใช้วิธีการขึงผ้าเหมือนกับกรอบสกรีนแบบธรรมดาก็ได้ค่ะ แต่อาจจะมีความลำบากมากกว่า ซึ่งส่วนมากมักจะขึงด้วยเครื่องขึงและใช้กาวทากรอบในการยึดผ้าไว้ค่ะ